แบบมีเสา: 2 เสา, 4 เสา และ ไม่มีเสา: Flatbar แขนดึง แขนค้ำ 

โรงจอดรถที่ติดกับตัวบ้านจะใช้วิธีค้ำยันหรือสลิงยึดติดกับผนังบ้านโดยให้ผนังบ้านเป็นตัวรับน้ำหนักโครงสร้างโรงจอดรถ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 2 เสา ส่วนแบบแยกออกจากตัวบ้านจะใช้เสา4 เสา เป็นตัวรับน้ำหนัก กันสาดโรงจอดรถแทน ดังนั้นสำหรับงานโรงรถที่จำเป็นต้องฝากโครงสร้างไว้กับตัวบ้าน จึงควรเลือกใช้ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาที่มีเทคนิคการก่อสร้าง การฝากโครงสร้างบ้านที่แข็งแรงและปลอดภัย จะดียิ่งกว่าหาก ผู้เชี่ยวชาญมีเทคโนโลยีในการรองรับหรือป้องกันปัญหาที่อาจเกิดจากการฝากโครงสร้างไว้กับตัวบ้าน

การสร้างเสาใหม่ที่แยกโครงสร้างของโรงจอดรถกับตัวบ้านจะช่วยรองรับน้ำหนักหลังคาได้ดี เพราะใช้เสารับน้ำหนักแทนผนังบ้าน หากพื้นทรุดจะไม่รั้งโครงสร้างเดิม และการทรุดตัวที่ไม่เท่ากันจะทำให้โครงสร้างบ้าน และโรงรถเสียหายไปด้วย

หากความยื่นของกันสาดยาวกว่ามาตรฐานที่กำหนด ทำให้ผนังบ้านต้องแบกรับน้ำหนัก จากดินทรุดโดยธรรมชาติและสภาพอากาศที่แปรปรวน ทั้ง ลมและฝน ในระยะยาวหากโครงสร้างบ้านรับน้ำหนักไม่ไหว อาจมีโอกาส ที่จะร่วงหล่นลงมา จึงควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญในการคำนวณความเหมาะสมของระยะยื่น ที่ออกแบบตามหลักวิศวกรรมและกฎหมายที่กำหนด เพื่อความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยในการติดตั้ง

วัสดุของหลังคาโรงรถต่างกันจากแสงทะลุที่ส่องผ่านหลังคา หากอยากให้หลังคามีลักษณะโปร่ง โล่ง ใกล้ชิดธรรมชาติ จะเหมาะกับ หลังคาแผ่นอะคริลิคโปร่งแสงและหลังคาแผ่นโปร่งแสง หากต้องการความเป็นส่วนตัว เพิ่มร่มเงา จะเหมาะกับหลังคาเมทัลชีทและหลังคาแผ่นไวนิล

ไม่มีเสา แบบกันสาด เน้นดีไซน์ความสวยงาม เพื่อความโปร่งโล่งของพื้นที่ / มีเสา เน้นการใช้ประโยชน์ของการมีพื้นที่เยอะ สามารถดีไซน์เสาหลากหลายรูปแบบให้เหมาะกับบ้าน / วัสดุ หลังคาโปร่งแสง และ ทึบแสงให้เลือกตามความชอบ / โครงสร้างหลังคา สีขาว เทา ดำ เข้ากับแบบสไตล์บ้านในปัจจุบัน สามารถเลือกได้ตามต้องการ

ควรคำนวณพื้นที่โรงจอดรถให้พอดีกับจำนวนรถที่จะใช้จอด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของรถยนต์อีกด้วยเช่นรถที่มีขนาดใหญ่ อาจต้องเพิ่มพื้นระยะยื่นให้ยาวขึ้นเพื่อครอบคลุม ส่วนขนาดโรงจอดรถที่ดี ที่รองรับการใช้ งานรถยนต์ได้ ควรมีขนาดประมาณ 2.5 x 5.5 เมตร สำหรับจอดรถ 1 คัน และพื้นที่ 5.5 x 5.5 เมตร เป็นอย่างน้อย